พิพิธภัณฑ์จันทรเกษม
พระราชวังจันทรเกษม หรือ วังหน้า ตั้งอยู่ ริมแม่น้ำป่าสัก ถนนอู่ทอง พระราชวังจันทรเกษม ตั้งอยู่ใกล้กับตลาดหัวรอ จังหวัดอยุธยา พระราชวังแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในหลายๆชื่อ เช่น วังหน้า พระราชวังจันทรเกษมสร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระยุพราช และพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ ครั้งเสียกรุงเมื่อพ.ศ.2310 ถูกไฟไหม้จนหมด พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้สร้างขึ้นใหม่ตามแผนผังเดิม เพื่อใช้เป็นที่ประทับ ปัจจุบันใช้เป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจันทรเกษม ประกอบด้วยพลับพลาจตุรมุข พระที่นั่งพิมานรัตยา พระที่นั่งพิสัยศัลยลักษณ์ (หอส่องกล้อง)
นอกจากนี้ยังเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ และ พระมหาอุปราชที่สำคัญ หลายพระองค์ คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ เจ้าฟ้าสุทัศน์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ขุนหลวงสุรศักดิ์(พระเจ้าเสือ) สมเด็จพระเจ้าท้ายสระ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ กรมพระราชวังบวรมหาเสนาพิทักษ์ พระราชวังแห่งนี้พระนเรศวรใช้เป็นกองบัญชาการรับศึก จากหงสาวดี เมื่อปีพ.ศ.2129
หลังจากการเสียกรุงครั้งที่ 2 พระราชวังจันทรเกษมได้ถูกทิ้งร้างไป จนกระทั่งในสมัยของรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีการปรับปรุงบูรณะ เพื่อใช้เป็นที่ประทับในเวลาที่พระองค์
ต่อมา ในปี พ.ศ.2447 รัชกาลที่ 4 มีพระราชดำริโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายวัตถุต่างๆ จากโรงม้าพระที่นั่งเข้ามาเก็บรักษา และตั้งแสดงที่บริเวณพลับพลาจตุรมุข และต่อเติมระเบียงตามแนวอาคาร ด้านทิศเหนือและทิศตะวันออก เพื่อจัดตั้งวัตถุ ศิลาจารึก และประติมากรรมต่างๆ ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2479 กรมศิลปากร
เสด็จประพาสพระนครศรีอยุธยา และโปรดพระราชทานนามว่า พระราชวังจันทรเกษม เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2436 ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระราชวังจันทรเกษมให้เป็นที่ทำการของมณฑลกรุงเก่า โดยใช้พระที่นั่งพิมานรัตยาเป็นที่ทำการ จนพระยาโบราณราชธานินทร์ ดำรงตำแหน่งสมุหเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า ได้มีการจัดสร้างอาคารที่ทำการภาค ขึ้น แล้วย้ายที่ว่าการมณฑลจากพระที่นั่งพิมานรัตยามาตั้งที่อาคารที่ทำการภาค พระยาโบราณราชธานินทรได้รวบรวมวัตถุสิ่งของสำคัญในบริเวณกรุงเก่าและบริเวณใกล้เคียงไว้เป็นจำนวนมาก มาเก็บรักษาไว้ที่พระราชวังจันทรเกษม จนในปี พ.ศ. 2445 สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงแนะนำให้พระยาโบราณราชธานินทร์ จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่เรียกว่า โบราณพิพิธภัณฑ์ โดยใช้ตึกโรงม้าพระที่นั่งเป็นที่เก็บรวมรวม
ใช้ชื่อพิพิธภัณฑ์ว่า อยุธยาพิพิธภัณฑ์ ต่อมา ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2479 กรมศิลปากร ได้ประกาศให้อยุธยาพิพิธภัณฑ์เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในนาม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม
บัตรเข้าชม ราคา 30 บาท